ปรัชญา	สร้างระบบคิด ปลูกจิตวิทยาศาสตร์
วิสัยทัศน์	ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราช จะเป็นองค์กรที่มีความเป็นเลิศ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามอัธยาศัย ด้านวิทยาศาสตร์ ด้วยกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนากลุ่มเป้าหมายไปสู่สังคมฐานความรู้วิทยาศาสตร์
เอกลักษณ์	พื้นที่เล็กๆความสุขแห่งการเรียนรู้
อัตลักษณ์	มีความสุข สนุกกับการเรียนรู้

เจ้าหนูถามจัง	โลโก้ศูนย์วิทย์	สโลแกนศูนย์วิทย์

พันธกิจ

1. จัดการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์อย่างสร้างสรรค์สำหรับกลุ่มเป้าหมายทุกประเภท
2. พัฒนาและเชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต และป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติในพื้นที่
3. ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ในการจัดการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทั้งภาครัฐและเอกชน
4. ร่วมวิจัยสื่อการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้มีหลักสูตรที่หลากหลายสอดคล้องกับผู้เรียน
5. นำนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์เชิงบูรณาการมาเป็นฐานสู่การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์
6. ส่งเสริมพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำท้องถิ่น

   ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราชเป็นสถานศึกษาที่ให้บริการด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัยในรูปแบบที่หลากหลาย โดยการให้บริการการเรียนรู้ครอบคลุมใน 4 ด้าน คือ
1. บริการนิทรรศการ นิทรรศการมีรูปแบบต่างๆ เช่น นิทรรศการถาวร นิทรรศการชั่วคราว นิทรรศการเคลื่อนที่
นิทรรศการถาวรที่แสดงเป็นประจำภายในอาคารและภายนอกอาคารเช่น นิทรรศการความลับของพื้นพิภพ, นิทรรศการเปิดโลกธรณีวิทยา, นิทรรศการดาราศาสตร์และอวกาศ, ภาพยนตร์สามมิติ, นิทรรศการ Science Park, Adventure Park, นิทรรศการวัฎจักรของน้ำและ ป. ปลาน่ารู้, นิทรรศการวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (Basic Science)

นิทรรศการชั่วคราว จะจัดแสดงเป็นครั้งคราวตามเหตุการณ์ที่น่าสนใจ เช่น นิทรรศการ พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย
นิทรรศการเคลื่อนที่ โดยมีนิทรรศการเคลื่อนที่ และท้องฟ้าจำลองเคลื่อนที่ รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ไปจัดตามสถานศึกษา หน่วยงาน หรือร่วมงานพิเศษต่างๆ ตามที่องค์กรขอความร่วมมือมา

2. กิจกรรมค่าย ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราชให้บริการกิจกรรมค่ายในรูปแบบค่ายกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ซึ่งมีกิจกรรมการเรียนรู้ให้เลือกหลากหลายกิจกรรม โดยทุกกิจกรรมเน้นให้เกิดความสนุก มีความสุข จากการปฏิบัติจริงนอกห้องเรียนของธรรมชาติรอบเขาขุนพนมและชุมชนรอบๆ เพื่อให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้จากสิ่งรอบตัว โดยใช้ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ทุกกิจกรรมยังตอบสนองตัวชี้วัดชั้นปี และสมรรถนะสำหรับผู้เรียน 5 ด้านคือ ความสามารถในการสื่อสาร, ความสามารถในการคิด, ความสามารถในการแก้ปัญหา, ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต, ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 กิจกรรมค่ายได้พัฒนาทั้งจุดประสงค์การเรียนรู้ ให้ชัดเจนรัดกุมขั้นตอนการจัดกิจกรรมให้มีความกระชับ เสร็จสิ้นภายใน 3 ชั่วโมงทุกกิจกรรม แบ่งกลุ่มกิจกรรมตามแนวคิดและวิธีการที่ใกล้เคียงกันได้เป็น 6 กลุ่ม คือ
2.1 Play & Learnประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม Science Show, กิจกรรม Math Magic, กิจกรรมพิชิตโลกร้อน และกิจกรรมของเล่นไทยคุณค่าใหม่วิทยาศาสตร์
2.2 พลังคนพลังคิดประกอบด้วย 5 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม Inquiry, กิจกรรม Discovery, กิจกรรม Walk Rally กิจกรรมจำนำฝัน และกิจกรรมล่าฆาตกร
2.3 ฝีไม้ลายมือ ประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมเส้นสายลายเทียน, กิจกรรมมัดเส้นเน้นลายและกิจกรรมพาราพาเรียน
2.4 ป่าดินหินน้ำประกอบด้วย 6 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมตะลุยป่าหลังคาแดนใต้, กิจกรรมคนค้นป่า กิจกรรมนักสืบสายน้ำ, กิจกรรมนักธรณีน้อย, กิจกรรมนักอุตุน้อย และกิจกรรมปีนหน้าผา
2.5 ถอดรหัสฟ้า ประกอบด้วย 1 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมเปิดเลนส์ส่องฟ้า
2.6 Science for kidsสำหรับเด็ก 3-8 ปี ประกอบด้วย 5 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม Magic Science, กิจกรรมอากาศมหัศจรรย์, กิจกรรม Test Body, กิจกรรมของเล่นกับความลับ, กิจกรรมวิทยาศาสตร์ทะลุจอ

3. กิจกรรมการศึกษา ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราชให้บริการกิจกรรมการศึกษาในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
- งานมหกรรม เช่น งานมหกรรมเปิดโลกการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ , งานวิทยาศาสตร์สัญจร
- การประกวด/แข่งขัน เช่น การประกวดการแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science Show)
- วันเด็กแห่งชาติ
- สัปดาห์วิทยาศาสตร์

4. บริการวิชาการ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราชให้บริการวิชาการในรูปแบบต่างๆ เช่น
- เป็นวิทยากรบรรยาย
- จัดประชุม/อบรม/สัมมนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- บริการสื่อ ในรูปแบบเอกสาร สิ่งพิมพ์ VCD
- ให้บริการความรู้ บทความวิทยาศาสตร์, บทเรียน E-learning ผ่าน www.nakhonsci.com

โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ประจำปี 2558

- โครงการพัฒนารายการนำเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้
- โครงการแพร่เผยองค์ความรู้ระบบนิเวศคลองนอกท่า
- สัมมนาภาคีเครือข่ายเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในการจัดกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์
- โครงการประกวดการแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science Show)
- โครงการ วิทยาศาสตร์สัญจร : ศูนย์วิทย์เมืองคอนคืนความสุขเยาวชน
- โครงการพัฒนาระบบจองค่ายแบบออนไลน์
- โครงการวิทย์หนังสั้น
- โครงการสื่อสารการตลาด
- โครงการพัฒนาทักษะวิทยาศาสตร์การบินสำหรับเยาวชน
- โครงการพัฒนาศูนย์วิทย์สุ่ความเป็นเลิศฯ
- โครงการพัฒนาของเล่นวิทยาศาสตร์
- โครงการประกวดการจัดกิจกรรมนักสืบสายน้ำ
- โครงการพัฒนาเยาวชนด้วยสังคมวิทยาศาสตร์

    เนื่องจากศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราชอยู่ในสังกัดของสำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จำเป็นจะต้องมีการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อให้มีมาตรฐานการศึกษาและเป็นที่ยอมรับสู่สาธารณชนตามบทบาทและภารกิจที่ได้รับ ทางศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราชจึงได้พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อใช้ในการจัดเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่สอดคล้องกับมาตรฐานและตัวบ่งชี้ของการประกันคุณภาพการศึกษา ให้มีมาตรฐานเดียวกัน

สะดวกในการบันทึกจัดเก็บ ค้นหาและปรับปรุง เป็นระบบประกันคุณภาพที่เป็นแบบอย่างแก่สถานศึกษาอื่นๆ และสะดวกต่อการรับการประเมินคุณภาพจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพด้านการศึกษา

    ในการจัดทำข้อมูลบุคลากรทุกปีทางศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราชจะจัดทำข้อมูลด้วยโปรแกรม eCitizen (เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปในการจัดเก็บข้อมูลบุคลากร ซึ่งส่วนกลางได้พัฒนาขึ้นและส่งให้ทางสถานศึกษาในสังกัดทุกแห่งเพื่อส่งข้อมูลแบบเดียวกัน) สถานศึกษาเมื่อจัดเก็บข้อมูลเรียบร้อยแล้วจะส่งให้ทางกระทรวงศึกษาธิการอยู่เสมอทุกปี โดยทั่วไปอาจมองว่าระบบ eCitizen ระบบเดียวก็เพียงพอแล้วแต่สำหรับศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราชมองว่ายังไม่เพียงพอ รวมไปถึงปัญหาการจัดเก็บข้อมูลที่ล่าช้า ยุ่งยากและไม่ถูกต้องชัดเจน ทำให้มีการคิดริเริ่มพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานบุคลากรภายในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราชขึ้น โดยมีขั้นตอนและวิธีการ คือ

1) ก่อนที่จะดำเนินการพัฒนาระบบ ทางสถานศึกษาได้ประชุมเพื่อวิเคราะห์ปัญหา ว่าระบบแบบเดิมมีความผิดพลาดหรือต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร
2) ศึกษาความเป็นไปได้ ของการสร้างสารสนเทศใหม่ และดูว่าสารสนเทศเดิมสามารถแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร
3) วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้งานสารสนเทศในองค์กร หลังจากที่สถานศึกษาได้พัฒนาระบบสารสนเทศก็ได้ติดตามและประเมินการใช้งานระบบสารสนเทศจากฝ่ายต่างๆที่เป็นผู้ใช้งานระบบ
4) ออกแบบระบบเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการภายในสถานศึกษา
5) พัฒนาระบบเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของสถานศึกษา
6) พัฒนาโปรแกรมเพื่อนำขึ้นเครื่องแม่ข่าย
7) ทำเอกสารประกอบรายละเอียดต่างๆของระบบงาน
8) ทดสอบและแก้ไขโปรแกรมก่อนใช้งาน เพื่อใช้ในการจัดเก็บข้อมูล สารสนเทศ อย่างเป็นทางการ ทำให้บุคลากรภายในสถานศึกษา ได้ใช้ข้อมูลสารสนเทศ มาพัฒนารูปแบบการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ บุคลากรสามารถดาวน์โหลดคำสั่งและแบบฟอร์มต่างๆจากระบบทันที ลดการสิ้นเปลืองของเอกสาร และสามารถนำส่งข้อมูลให้ทางส่วนกลางได้ถูกต้องและรวดเร็วขึ้น